การเช็คเครดิตบูโร หรือที่คนทั่วไปชอบเรียกกันว่าเช็คแบล็คลิสต์ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่จะต้องรู้ก่อนการขอสินเชื่อ เพราะข้อมูลเครดิตบูโร เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือในการชำระหนี้ของผู้กู้ โดยจะถูกนำไปประกอบการพิจารณาร่วมกับเอกสารและปัจจัยอื่นๆ เพื่อพิจารณาในการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง มีการจัดเก็บข้อมูลโดย บริษัท ข้อมูลเครดิตบูโรแห่งชาติ จำกัด ซึ่งวิธีการเช็คข้อมูลเครดิตก็สามารถทำได้เองในหลายช่องทางด้วยกัน ดังนี้
1. บริษัท ข้อมูลเครดิตบูโรแห่งชาติ จำกัดสามารถไปติดต่อขอข้อมูลเครดิตได้ที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตบูโรแห่งชาติ จำกัด ที่ตั้งอาคารเดอะไนน์ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้า ชั้น 2 (โซนพลาซา) ถ.พระราม 9 ห้วยขวาง กรุงเทพฯ เปิดทำการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 9.00 – 16.30 น. โดยสามารถรอรับแบบรายงานได้เลยภายใน 15 นาที มีค่าบริการ 150 บาท2. เคาน์เตอร์ธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศ โดยสามารถกรอกแบบคำขอข้อมูลตรวจสอบเครดิต พร้อมยื่นบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง มีค่าธรรมเนียม 150 บาท เจ้าหน้าที่จะออกหลักฐานการรับชำระเงินค่าธรรมเนียม และค่าจัดส่งเอกสาร ให้แก่ท่านเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยจะจัดส่งเอกสารรายงานข้อมูลเครดิตให้แก่ท่านภายใน 7 วันทำการ3. เช็คผ่านช่องทางออนไลน์- การตรวจสอบผ่านแอปฯธนาคาร
เราสามารถขอรายงานเครดิตบูโรผ่านแอปฯธนาคารได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น แอปฯธนาคารกรุงไทย (Krungthai Next) โดยการเลือกเมนูตรวจเครดิตบูโร
เลือกรูปแบบการรับข้อมูล ได้ทั้งทางอีเมล (PDF) หรือจัดส่งทางไปรษณีย์
เลือกประเภทรายงาน มีให้เลือก 2 แบบ 1. รายงานข้อมูลเครดิต 1 ฉบับ มีค่าธรรมเนียม 150 บาท หรือ 2. รายงานข้อมูลเครดิตและคะแนนเครดิต 1 ฉบับ มีค่าธรรมเนียม 200 บาท
แล้วเลือกที่อยู่การจัดส่งเป็นอันเสร็จสิ้น
โดยหากเลือกการรับข้อมูลผ่านทางอีเมล (PDF) จะสามารถรับรายงานได้ทันที /ภายใน 24 ชั่วโมง หรือ 3 วันทำการ (เป็นไปตามเงื่อนไขที่เครดิตบูโรกำหนด) หรือรับเอกสารรายงานข้อมูลเครดิตผ่านทางไปรษณีย์ จะได้รับเอกสารภายใน 7 วันทำการ
- การตรวจสอบผ่านแอปฯเป๋าตัง
การเช็คเครดิตผ่านแอปฯ เป๋าตัง ทำได้ผ่านเมนู เป๋าตังเปย์โดย
เลือกประเภทรายงาน มีให้เลือก 2 ประเภท 1.รายงานข้อมูลเครดิต 2.รายงานข้อมูลเครดิตและคะแนนเครดิต (เครดิตสกอริ่ง)
จากนั้นเลือกช่องทางการรับรายงาน มี 2 ช่องทางคือ 1.รับรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมลภายใน 24 ชม. และ 2. รับรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายใน 7 วันทำการ โดยมีค่าธรรมเนียมการขอเอกสาร มีให้เลือก 2 แบบ 1.รายงานข้อมูลเครดิต 1 ฉบับ 150 บาท 2.รายงานข้อมูลเครดิตและคะแนนเครดิต (เครดิตสกอริ่ง) 1 ฉบับ 200 บาท เช่นเดียวกัน
4. เช็คได้ที่ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกแห่งทั่วประเทศ
ทำได้โดยยื่นบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมชำระค่าบริการรายงานเครดิต 150 บาท โดยรายงานข้อมูลเครดิตจะถูกจัดส่งถึงท่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียน ภายใน 7 วันทำการ
*เฉพาะรายการลูกค้าบุคคลธรรมดา ยื่นขอตรวจของตนเองเท่านั้น
5. เช็คได้ที่ตู้เอทีเอ็มของแต่ละธนาคาร
ช่องทางนี้สำหรับลูกค้าของธนาคารที่ถือบัตร ATM และบัตรเดบิต เช่น ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย เลือกบริการอื่นๆ ไปที่เมนูตรวจสอบข้อมูลเครดิต ใส่ข้อมูลหมายเลขบัตรประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และเลือกที่อยู่การจัดส่ง โดยค่าธรรมเนียมการขอข้อมูลเครดิตจะอยู่ที่ 130 บาท และมีค่าไปรษณีย์ 20 บาท โดยจะได้รับรายงานข้อมูลเครดิตทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 1 สัปดาห์
การตรวจสอบเครดิตบูโร สามารถทำได้ง่ายๆ หลายช่องทางด้วยกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวก ดังนั้น ก่อนจะยื่นขอสินเชื่อ ก็อย่าลืมไปเช็คเครดิตของตนเองกันก่อนนะคะ
